หลังจากปล่อยให้ลูกยึดคอมฯมาตั้งนาน วันนี้แม่ยึดคืนมั่งหล่ะ 55++ ก็ลูกไปโรงเรียนแล้ว มะมีใครมาแย่ง ดีจริง ๆ รอพี่มิ้มไม่ไหวแล้วหล่ะ ขอปาดก่อนละกันนะจ๊ะ เรื่องของยัยการ์ตูนก็มีอยู่ว่า ประมาณ 3-4 ขวบ เริ่มเข้าเรียนอนุบาล เคยบอกแม่ว่าอยากเล่นยิมนาสติก รู้จักยิมนาสติกได้งัยเหรอ? อาจจะเป็นเพราะคุณแม่ชอบดูกีฬาประเภทนี้ก็ได้นะ เวลามีถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาคุณแม่ก็จะรอดูแต่ยิมนาสติกเนี่ยะแหละ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้จักว่ามีกีประเภทหรอก ดูไปหมดทั้งยิมลีลา ยิมสากลที่มารู้ทีหลังว่าเค้าเรียกว่ายิมศิลป์ (ก็คนสวย ๆ ก็ต้องดูกีฬาที่สวย ๆ งาม ๆ สินะ ว๊าว..วว) สมัยนั้น ธีระ โพธิ์พานิช เป็นฮีโร่ในดวงใจเลยค่ะ เพราะจะได้ยินชื่อเค้าบ่อยมาก ๆ ส่วนยิมลีลานะเหรอ ดูอย่างเดียว ไม่เคยได้สนใจชื่อนักกีฬา เพราะมัวแต่ตะลึงว่า"เค้าทำได้งัย" เผลอแป๊ปเดียว จบเพลงซะแระ ก็เลยไม่ได้รู้ชื่อนักกีฬาเลย เพราะคุณแม่ดูบ่อยมั๊ง ลูกก็เลยได้ดูไปด้วย แต่ก็เนื่องจากว่าคุณแม่เป็นกองเชียร์ดีเด่น ลูกบอกว่าอยากเล่นกีฬา คุณแม่ก็หาข้ออ้างได้สารพัด "มันไกลบ้านมาก ๆ" "แม่ไม่มีเวลาพาไปเรียน" "ไว้แม่หาที่เรียนใกล้บ้านได้ก่อนนะ" แล้วก็หลอกล่อซะจนเด็กอนุบาลลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท 55+คุณแม่ชนะแล้ว ก็ฉันต้องทำงานนี่หน่าจะมีเวลาที่ไหนพาลูกไปเรียนล่ะ (เอ้า!! เข้าข้างตัวเองได้อีก) และแล้ว 4 ปีผ่านไป การ์ตูนยังไม่ลืมค่ะท่านผู้ชม "คุณแม่ณิชาอยากเล่นยิมนาสติก" ลูกสาวบอกคุณแม่ในเช้าวันหนึ่ง (ไม่รู้ว่าเมื่อคืนแกนอนฝันรึงัยน๊า) เอาล่ะสิ! ความรู้สึกแรกของคุณแม่ที่ลูกบอกในวันนั้น รู้สึกผิดค่ะ แสดงว่า 4 ปีที่ผ่านมาเค้าไม่เคยลืมในสิ่งที่อยากทำ แต่คุณแม่คิดแทนเค้า คุณแม่คิดไปเองว่าก็แค่ความคิดเด็กคนนึง คุณแม่ทำอะไรลงไปเนี่ยะ คราวนี้...ไม่มีคำปฏิเสธจากแม่อีกแล้ว แม่พยายามหาข้อมูลเท่าที่จะหาได้ ก็อย่างที่บอกว่าคุณแม่ไม่เคยเล่นกีฬาและก็ไม่เคยสนใจเรื่องนี้ซะด้วย จะไปรู้จักที่ไหนล่ะทีนี้ OH!!!!! สวรรค์โปรด หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีคอลัมภ์เล็กกะจิ๊ดเดียวที่คุณแม่บังเอิญไปอ่านเจอเข้า "การกีฬาแห่งประเทศไทย รับสมัครเยาวชนเข้าเรียนกีฬาภาคฤดูร้อน Summer Camp " มีกีฬา10 กว่าชนิด 1..2..3..4..5...มียิมนาสติกลีลาด้วยค่า....คุณแม่กดโทรศัพท์ไปถามข้อมูลทันที เย็นวันนี้หลังจากไปรับลูกกลับจากโรงเรียน ก็เอาหนังสือพิมพ์ให้เค้าดู เด็กๆ ดีใจมากๆ ค่ะ ว่าแล้วเราก็เตรียมเอกสาร+รูปถ่ายพร้อม รอวันเปิดรับสมัครอย่างใจจดใจจ่อ วันเปิดรับสมัครวันแรกเรา 3 คนแม่ลูก คุณแม่+พี่ภูมิ+ณิชา ไปนั่งรอเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ 7 โมงเช้า รอ..ร๊อ..รอ จนถึงเวลา ณิชาสมัครยิมนาสติกลีลาเป็นคนแรก พี่ภูมิสมัครฟุตซอลเป็นคนที่6 คุณแม่สังเกตุได้ว่ามีเด็กผู้ชายมากกว่า ทั้ง ๆ ที่ประชากรโดยรวม ผู้หญิงมากกว่านะ ก็คือเด็กผู้หญิงอาจจะไม่สนใจกีฬา หรืออาจจะสนใจแต่คุณพ่อ+คุณแม่อาจจะคิดว่า"ไปเต้น, ไปรำ, ไปร้องเพลงดีกว่ามั๊ย" บรรยากาศวันไปสมัครเด็กๆ ตื่นเต้น ไปเจอเด็กคนอื่นๆ ที่สนใจเรื่องเดียวกัน เค้าจะนั่งดูว่า ใครเรียนยิมนาสติกเหมือนเราน๊า ใครเรียนฟุตบอลบ้าง จนเกือบเที่ยงพวกลูกลิงทั้งหลายยังไม่ยอมกลับบ้าน เดินเล่นในสนามกีฬาหัวหมากเสมือนหนึ่งว่าเป็นห้างสรรพสินค้า ขอกินข้าวเที่ยงที่ครัวคุณตุ่ม แล้วเดินเล่นอีกรอบ จนบ่ายแก่ๆ ถึงจะยอมกลับบ้าน จนถึงวันที่รอคอย วันเปิดเรียนเด็ก ๆ ตื่นเช้า รอคุณแม่เตรียมของเรียบร้อย ออกจากบ้านไปหัวหมากกัน พวกเราไปกันก่อนเวลา เพื่อจะได้ไปเดินดูว่าเรียนตรงไหน ของพี่ภูมิไม่มีปัญหา คุณครูรออยู่ที่สนามฟุตซอลแล้ว ของการ์ตูนล่ะ เดินไปที่ศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม ตรงไปนั่งรอที่ห้องยิมนาสติกอย่างใจจดใจจ่อ จนเกือบถึงเวลาเรียนมีเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่ายิมนาสติกลีลาไปเรียนตึกโน้นครับ OK. ไม่มีปัญหาค่ะ สองคนแม่ลูกก็ย้ายสำมะโนครัวไปที่ห้องกระจก "ว๊าว..ว....หรูหราค่ะ มีแอร์ด้วย แจ๋ว!!" สองคนแม่ลูกแอบซุบซิบกัน คุณครูมาแล้ว การ์ตูนตั้งใจเรียนตลอดเวลาค่ะ คุณแม่แอบดีใจที่เราไม่ปฏิเสธลูกอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้เห็นลูกทำในสิ่งที่เราคิดว่า"เค้าทำไม่ได้" คอร์ส 1 เดือน การ์ตูนไม่เคยขาดเรียน ไม่เคยไม่ตั้งใจเรียน จนกระทั่งคุณแม่ของพี่ๆนักกีฬาคนนึงแนะนำให้ลูกมาเรียนแบบจริงจัง เพราะคอร์สซัมเมอร์จะเป็นการสอนแบบให้เด็กๆได้แค่พื้นฐานเล็กน้อย การ์ตูนสนใจค่ะ แต่แม่ก็ยังแอบกลัว "สโมสรเสนาชัย อ่อนนุช 53 โห!!ไกลจัง เอาไว้วันหลังแม่พาไปดูก็ล่ะกัน" มาเสนาชัยวันแรก ไกลเหมือนกันนะเนี่ยะ พอมาถึงเด็กๆ กำลังเรียนกันอยู่เลยค่ะ โอ้โห!! เค้าทำได้งัย อยากทำได้บ้างจัง เด็กๆ ที่นี่เก่ง ๆ กันจังเลย กระตุ้นต่อมความอยากของการ์ตูนละสิ อาทิตย์ถัดมาคุณพ่อมาด้วย เพราะกลัวคุณแม่ไม่ยอมให้เรียน พอคุณพ่อมาเห็นเด็กๆ ที่นี่เรียนกัน บอกเลยว่า "ต้องให้ลูกเรียน" คุณพ่อบอกว่าอยู่ที่บ้านลูกไม่มีทางได้วิ่งเยอะๆ ได้กระโดดเชือกเป็นร้อยครั้งหรอก วัตถุประสงค์เดียวของคุณพ่อคือ อยากให้ลูกได้ออกกำลังกาย อยากให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง ปีนึงแล้วเนี่ยะ.......คุณพ่อยังยืนยันคำเดิม "ต้องให้ลูกเรียนยิมฯ" เพราะอะไรนะเหรอ? การ์ตูนสุขภาพดีขึ้นมาก ๆ ค่ะ เมื่อก่อนเป็นภูมิแพ้ เวลาออกจากบ้านต้องมีกระเป๋าใส่ยาติดตัวไปด้วยตลอด ตอนนี้กระเป๋าใบนั้นเปลี่ยนจากใส่ยา มาใส่กิ๊ฟไว้แต่งผมเวลาเรียนยิมฯ ซะแระ ฮิ.ฮิ.. มีสมาธิดีขึ้นค่ะ คุณครูสอนรำไทย คอนเฟิร์มมา คุณครูสอนรำไทยบอกให้เพื่อนๆ การ์ตูนไปเรียนยิมฯด้วย เพราะตั้งแต่น้องมาเรียนยิมฯ สอนง่ายมาก มีสมาธิมากขึ้น รำสวย (เกี่ยวกันมั๊ยเนี่ยะ) เรียนหนังสือดีขึ้น เพราะเค้ามีสมาธิดี และจะรู้จักแบ่งเวลาเรียน+เล่น น้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นค่ะ 13 เดือนที่ผ่านมา ณิชามีความสุข และไม่ค่อยบ่นว่าไม่อยากมาโรงยิมเลยค่ะ (ขอใช้คำว่าไม่ค่อยนะค่ะ คือมีบ้างเหมือนกันหน่ะ) พี่ภูมิและน้องตูนเป็นที่รักของครูพละที่โรงเรียนม๊าก..มาก ก็เวลาครูให้วิ่งรอบสนาม 10 รอบ เด็กจะค่อย ๆ หายไปรอบละ 1-2 คน จนกระทั่งเหลือวิ่งกันอยู่ 2 คนพี่น้อง 555++++ เจ๋งมั๊ยคร๊าบ..บ..บ..บ ลูกศิษย์ครูหน่อง........... |